วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้มดับเบิ้ลโอ เดอะมูฟวี่

กันดั้ม 00 Movie : A Wakening ของ Trailblazer (劇場版機動戦士ガンダム00) ออกอากาศ : 18 กันยายน 2010 ผู้ผลิต : Sunrise เนื่องด้วยเป็นเนื่อเรื่องเหตุการณ์ต่อจากตอนที่2ของอนิเมชั่นกันดั้มดับเบิ้ลโอ

เหตุการณ์
ปี 2314 AD เป็นเหตุการณ์ของ AD - 2312 ได้เริ่มกระโดดนวัตกรรมในมนุษย์และสภาได้เริ่มใช้ประโยชน์จากพลังของ Innovators ขั้นตอนสุดท้ายในแผน Aeolia Schenberg ของนวัตกรรมของมนุษย์เพื่อเตรียมการเข้ามาของชีวิตคนต่างด้าวมาบรรลุผลเป็นภัยคุกคามใหม่มาถึงในโลกกลมๆ, ข้างนอกโลหะเปลี่ยนชีวิต (ELS) ท้องฟ้าเป็นอีกปรากฏการคุกคามที่เป็นกลาง







เพลงประกอบภาพยนตร์
- UVERworld's CHANGE
- UVERworld's Qualia
- Back Horn's "Closed World" (閉ざされた世界)
- Chiaki Ishikawa's "Afraid of anything anymore, I'm not scared" (もう何も怖くない、怖くはない)



วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กันดั้มเอสดีฟอร์ซ : กันดั้มจิ๋วจอมพลัง

กันดั้มเอสดีฟอร์ซ (Gundam SD Force : SDガンダムフォース) ผู้สร้างยูอิจิ อาเบะ ญี่ปุ่น / อเมริการ่วมผลิต,กันดั้มเอสดีฟอร์ซ เริ่มออกอากาศในการ์ตูนเครือข่ายในสหรัฐอเมริกาที่ 26 ตอนและในภายหลังทีวีโตเกียวในประเทศญี่ปุ่น 52 ตอนทำให้ชุด Gundam ยาวถึงวันที่ รายการโทรทัศน์เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นคนแรกที่ไม่ได้ออก VHS และวิดีโอออกบ้านของมีเฉพาะในแต่ละ DVD กับ DVD มี 3 ตอนแต่ละ แต่สุดท้าย 26 ตอนมีตอนที่ไม่ได้ออกอากาศโทรทัศน์ในอเมริกา แฟนคลับขอร้องให้ออกอากาศ สำหรับครึ่งหลังจะออกและในปี 2008 ล่าสุด 26 ตอนถูกปล่อยออกมาในภาษาอังกฤษเป็นการภากษ์ภาษาในDVD


เรื่องย่อ

เป็นครั้งแรกของเหล่ากันดั้มในรูปแบบอนิเมชั่น 3 มิติเต็มรูปแบบ เมื่อ เมืองนีโอโทเปียถูกรุกรานโดยเหล่าร้ายจากโลกดาร์คแอ็คซิส จึงเป็นหน้าที่ของกัปตันกันดั้มหัวหน้าหน่วยทีมกันดั้มฟอร์สที่จะช่วยปกป้อง เมืองนี้ ร่วมกับอัศวินจากอาณาจักรลาครอว์ ซีโร่ เดอะ วิงค์ไนท์ และซามูไรเลือดร้อนบาคุเน็ตสึมารุ จากประเทศอาร์ค

[รายละเอียด ]

[ตอนที่ 1 ผมชื่อกัปตัน]

[ตอนที่ 2 โซลไดรฟ์]

[ตอนที่ 3 อัศวินปีกขาว ซีโร่]

[ตอนที่ 4 จัดการกับยานมุไซของข้าศึก]

[ตอนที่ 5 ก่อตั้งทีมกันดั้มฟอร์ส]

[ตอนที่ 6 นักรบแห่งเปลวเพลิง กลับบ้าน]

[ตอนที่ 7 กันไบค์]

[ตอนที่ 8 เจ้าหญิงกับเค้ก และ อัศวินปีกขาว]

[ตอนที่ 9 บาคุเน็ตสึมารุลุยแหลก]

[ตอนที่ 10 ทริปเปิ้ลแอทแท็ค]

[ตอนที่ 11 เขาวงกตลาครัว ภาคแรก]

[ตอนที่ 12 เขาวงกตลาครัว ภาคสอง]

[ตอนที่ 13 เขาวงกตลาครัว ภาคจบ]

[ตอนที่ 14 ไขความลับกันดั้มฟอร์ส]

[ตอนที่ 15 กันอีเกิ้ลเร็วเหนือเสียง]

[ตอนที่ 16 กันไดเวอร์ผู้มาจากทะเลลึก]

[ตอนที่ 17 อาชูร่ามารุ นักฆ่าคนใหม่]

[ตอนที่ 18 กองบัญชาการ SD กันดั้ม อยู่ในอันตราย]

[ตอนที่ 19 บาคุเน็ตสึมารุ ปะทะ อาชูร่ามารุ]

[ตอนที่ 20 ต้องช่วยเฟนให้พ้นจากอันตราย]

[ตอนที่ 21 เฟเธอร์ดราก้อน]

[ตอนที่ 22 บิ๊กแซม บุกโจมตี]

[ตอนที่ 23 กัปตันซิสเต็มทำงาน]

[ตอนที่ 24 เกิดอะไรขึ้นกับโซลไดรฟ์]

[ตอนที่ 25 เอา "โซลไดรฟ์" กลับคืนมา!]

[ตอนที่ 26 การต่อสู้ระหว่างกัปตันและซาซาบี]

[ตอนที่ 27 ทะลุมิติไปยังลาครัว]

[ตอนที่ 28 เกคิมารุจอมป่วน]

[ตอนที่ 29 ความน่ากลัวของช่องแคบมินอฟ]

[ตอนที่ 30 พวกเราชนะอีกแล้วหรือ?]

[ตอนที่ 31 ดาบปีศาจเอเปียน]

[ตอนที่ 32 เอเปียนอาละวาด]

[ตอนที่ 33 เจ้าหญิงลาครัวที่ถูกสาป]

[ตอนที่ 34 เจ้าหญิงแห่งลาครัวตัวปลอม]

[ตอนที่ 35 เกงคิมารุจอมยุ่ง]

[ตอนที่ 36 ข้าวปั้นกับสวนแห่งภูมิปัญญา]

[ตอนที่ 37 ศึกปะทะเดสไซส์อัศวินแห่งรัตติกาล]

[ตอนที่ 38 เจ้าหญิงริริกลับมาแล้ว]

[ตอนที่ 39 เสียงเรียกของกาเบร่า]

[ตอนที่ 40 ฮิบาโอมารุบุกกันดั้มไซ]

[ตอนที่ 41 ซูตกับริริตกอยู่ในอันตราย]

[ตอนที่ 42 เมืองอาร์คอยู่ในสภาวะคับขัน]

[ตอนที่ 43 ศึกหมากรุกระหว่างคิบะโอมารุกับซูต]

[ตอนที่ 44 บาคุชินมารุลุกเป็นไฟ]

[ตอนที่ 45 กันดั้มฟอร์ซรวมตัว]

[ตอนที่ 46 น้ำตาของคอบร้ามารุ]

[ตอนที่ 47 นักรบไดชินโชอาละวาด]

[ตอนที่ 48 เสียงร้องคำรามของเกคิมารุ]

[ตอนที่ 49 ตัวตนที่แท้จริงของกาเบร่า]

[ตอนที่ 50 ความน่าสะพรึงกลัวของกาเบร่า]

[ตอนที่ 51 ศึกครั้งใหญ่ปะทะเจเนอรัล]

[ตอนที่ 52 หนทางกลับบ้าน]

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลอาเมอร์

โมบิลอาเมอร์ ((ญี่ปุ่น:モビルアーマー ;อังกฤษ:Mobile Armour มีคำย่อว่า MA) เป็นกลุ่มของหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ในซีรีส์กันดั้ม โมบิลอาเมอร์ต่างจากโมบิลสูทโดยมักมีลักษณะที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ โมบิลอาเมอร์ยังมักมีสมรรถนะสูงในด้านหนึ่ง ระหว่างความเร็ว พลังทำลาย หรือ พลังป้องกัน ในขณะที่โมบิลสูทส่วนใหญ่จะมีสมรรถนะโดยรวมที่สมดุลกว่า


ศักราช Universal Century
ชื่อ Mobile Armour เป็นคำย่อของ Mobile All Range Maneuverability Offence Utility Reinforcement โมบิลอาเมอร์ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท MIP เพื่อเป็นอาวุธหลังการพัฒนาเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นไมนอฟสกี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นเตาปฏิกรณ์ที่มีขนาดเล็กแล้วยังสามารถกระจายอนุภาคไมนอฟสกี้ซึ่งสามารถรบกวนคลื่นวิทยุรวมทั้งเรดาร์ได้ แต่ในการแข่งขันกับโมบิลสูท ZI-XA3 ของบริษัทซีโอนิค โมบิลอาเมอร์รุ่นต้นแบบ MIP-X1 นั้นใช้ท่อขับดันในการขับเคลื่อนเท่านั้น จึงมีเวลาในการปฏิบัติการที่สั้นกว่าโมบิลสูทซึ่งใช้ระบบ AMBAC (Active Mass Balance Auto Control) ซึ่งทำให้โมบิลสูทสามารถควบคุมทิศทางในอวกาศได้โดยการขยับแขนและขาโดยไม่ต้องใช้ท่อขับดัน โมบิลสูทจึงได้รับเลือกให้เป็นอาวุธหลักของอาณาจักรซีอ้อน แต่โมบิลอาเมอร์ได้รับการผลิตในภายหลังเพื่อรองรับอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะติดตั้งไว้กับโมบิลสูทได้ ซึ่ง MIP-X1 นั้นได้รับการดัดแปลงเป็น MA-05 บิโกร โดยติดตั้งแขนกลเข้าไปเพื่อให้สามารถใช้ระบบ AMBAC ปรับทิศทางในอวกาศได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการผลิตโมบิลอาเมอร์สูงกว่าโมบิลสูทมากจึงมีการผลิตในจำนวนจำกัดเท่านั้น
ในช่วงสงครามหนึ่งปีนั้น มีเพียงอาณาจักรซีอ้อนเท่านั้นที่ใช้งานโมบิลอาเมอร์ แต่หลังจากศักราช UC 0085 สหพันธ์โลกได้เริ่มใช้งานโมบิลอาเมอร์ โดยตั้งแต่ช่วงของศึกกรีปส์ โมบิลสูทและโมบิลอาเมอร์บางรุ่นมีความสามารถในการแปลงร่างเป็นอีกแบบเพื่อให้เหมาะแก่การใช้งานตามสถานการณ์ได้ แม้จะไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าโมบิลสูท แต่ก็มีการใช้งานโมบิลอาเมอร์ต่อมาโดยกองกำลังต่างๆจนถึงสงครามซันสคาร


ศักราช Future Century
เท่าที่ปรากฏในภาคจีกันดั้ม มีเพียงนีโอเจแปนเท่านั้นที่ใช้งานโมบิลอาเมอร์เต็มรูปแบบ โดย JDG-009X เดวิลกันดั้มมีรูปร่างแบบโมบิลอาเมอร์ และในตอนที่กองทัพนีโอเจแปนพยายามจับเดวิลกันดั้มนั้นได้ใช้งานโมบิลอาเมอร์ JMA-27T แฟนโทม่า

ศักราช After Colony
ในศักราช After Colony นั้นไม่มีโมบิลอาเมอร์เต็มรูปแบบ มีเพียงโมบิลสูทบางรุ่นที่สามารถแปลงร่างเป็นโมบิลอาเมอร์ได้เท่านั้น

ศักราช After War
โมบิลอาเมอร์ในศักราช After War เป็นอาวุธที่ใช้งานโดยกองกำลังปฏิวัติอวกาศในช่วงสงครามอวกาศครั้งที่ 7 แต่หลังจากโลกตกอยู่ในสภาพหลังหายนะก็ไม่มีโมบิลอาเมอร์รุ่นใหม่ของกองกำลังปฏิวัติอวกาศอีก ในขณะที่มีการใช้งานโมบิลสูทขนาดเล็กทั้งโดยพลเรือนและสหพันธ์โลกซึ่งก่อตั้งขึ้นใหม่


ศักราช CC
ในช่วงแรกของเทิร์นเอกันดั้มนั้น ชาวจันทราใช้โมบิลอาเมอร์ขนาดใหญ่คือ JMA0530 วอโดม และในช่วงหลังได้ขุดพบโมบิลสูทที่แปลงร่างเป็นโมบิลอาเมอร์ได้คือ MRC-F31/J-2126 มุทโทวู

ศักราช Cosmic Era
โมบิลอาเมอร์ในศักราช Cosmic Era เป็นอาวุธที่กลุ่มพันธมิตรโลกพัฒนาขึ้นในขณะที่โคออดิเนเตอร์พัฒนาโมบิลสูท โมบิลอาเมอร์สามารถควบคุมง่ายกว่าแต่ก็มีพลังในการต่อสู้ต่ำกว่าโมบิลสูทอย่างมาก โดยเมื่อเทียบกับโมบิลสูท ZGMF-1017 จินน์ของซาฟท์แล้ว โมบิลอาเมอร์ TS-MA2 โมเบียส มีพลังในการต่อสู้ที่ด้อยกว่ามาก โมบิลอาเมอร์ในกันดั้มซี้ดมักมีลักษณะคล้ายกับเครื่องบินรบและมีขนาดเล็ก แต่ในภาคต่อ กันดั้มซี้ดเดสทินีก็ได้มีการพัฒนาโมบิลอาเมอร์ขนาดใหญ่ที่มีพลังในการต่อสู้สูงกว่าโมบิลสูททั่วไปออกมาเช่นกัน


ศักราช Anno Dominic
โมบิลอาร์เมอร์ในศักราช Anno Dominic ไม่ค่อยมีปรากฏออกมามากนัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอาวุธรบที่ถูกนำมาใช้งานในสงครามเสียส่วนใหญ่ ทั้งการใช้ในการรบโดยตรง หรือใช้เป็นอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพของโมบิลซูทอย่าง Aggressor โดยโมบิลอาร์เมอร์จะมีสมรรถณะที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานในแต่ละช่วง แต่ในเนื้อเรื่องช่วงท้ายได้มีการปรากฏโมบิลอาร์เมอร์ที่ติดตั้งระบบเตาพลังงาน GN Drive ซึ่งประสิทธิภาพในการรบสูงอย่าง Alvatore ออกมา













โมบิลสูทกันดั้มเซนทิเนล

โมบิลสูทกันดั้มเซนทิเนล (ガンダム・センチネル, Gandamu Senchineru) เป็นนวนิยายชุดในระยะเวลา Universal Century ของจักรวาลกันดั้ม, เป็นอันดับแรกในนิตยสาร Model Graphix ระหว่างกันยายน 1987 และสิงหาคม 1988 Gundam Sentinel เป็น cult hit เนื่องจาก super - รายละเอียดของการออกแบบเครื่องกลและเรื่องซับซ้อนโดยเขียนประสบการณ์ Masaya Takahashi ชุดระหว่างช่วงสุดท้ายของ Mobile Suit Zeta Gundam และระยะแรกของ ZZ Gundam ใน UC 0088 เรื่องราวแสดงความพยายาม Earth Federation เพื่อหยุดการจลาจลของเจ้าหน้าที่สภา
เนื้อเรื่อง
หลังจากสงครามกริปส์จบลง หน่วยฝึกสอนที่เปซุนได้ทำการก่อกบฏ และก่อตั้งNew Desides ขึ้น ซึ่งในขณะนั้น พันธมิตรได้สูญเสียกำลังรบไปเป็นจำนวนมากทั้งยังถูก กดดันจากอำนาจทางการทหารของเนโอซีออน (แอคซิส) ที่นำโดยฮามานอีก ทำให้พันธมิตรคิดใช้ หน่วยรบที่ใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ Task Force Alpha ไปกดดันให้ทางNew Desides ยอมแพ้ Task Force Alpha เป็นหน่วยรบที่ใช้ยุทโธปกรณ์รุ่นล่าสุด ไม่ว่าจะยานชั้นอากาม่า เปกาซัส3 หุ่นรุ่นใหม่อย่าง Z-Plus FA-ZZ รุ่นทดลอง และ S-Gundam หุ่นที่มีระบบใหม่ที่เรียกว่า ALICE เพียงแต่ว่าคนในทีม Task Force Alpha ส่วนใหญ่เป็นทหารมือใหม่ที่ไม่เคยผ่านการรบมาก่อนเช่น ริว รูธ และ ชิน คริปส์ ในขณะที่ New Desides เต็มไปด้วยนักบินมือฉกาจ และพวกNew Desides เองก็ได้เตรียมพร้อมรอการมาของ Task Force Alpha ไว้แล้ว
แนะนำตัวละคร
ฝ่าย E.F.S.F
1. ริว รูธ ตัวเอกของเรื่องเป็นคนเลือดร้อนมุทะลุไม่ชอบฟังใคร มีฝีมือค่อนข้างดี เขามีความคิดอยากเป็นฮีโร่และมั่นใจในฝีมือของตนมากแต่แท้จริงแล้วเขายังเป็นเพียงไก่อ่อนที่ไม่เคยสู้รบจริงๆซักครั้ง เขาได้เข้าหน่วยทดสอบ และถูกรับเลือกเป็นนักบิน S-Gundam ที่แม่ของเขาเป็นผู้พัฒนาระบบ ALICE ของ S-Gundamจนเสียชีวิตจากการระเบิดในที่ทดลอง
2. ชิน คริปส์ เพื่อนสนิทของริว นิสัยคล้ายๆกัน เป็นหัวหน้าฝูง FA-ZZ ซึ่งเป็น MSรุ่นทดลอง
3. สโตล แมนนิ่ง ทหารที่ผ่านสงคราม1ปีพร้อมกับรอยแผลแห่งสงคราม ขาของเขาขาดจากการช่วยเพื่อนรัก ทอช เครย์ ในสงคราม1ปี เป็นคนที่มีประสบการณ์และฝีมือสูง ใจเย็นและมองการไกลและรู้จักวางแผนที่เฉียบขาด เขาเป็นหัวหน้าทีมMSของTask Force Alpha และคอยสอนริวที่เป็นแค่ไก่อ่อนให้รู้จักสงครามและการต่อสู้ที่แท้จริง
4. อีตั้น ฮีทโทรว์ นายทหารกัปตันยานเปกาซัส 3 ผบ.ของหน่วย Task Force Alpha จบจากโรงเรียนทหารด้วยคะแนนที่สูง แต่เขายังไม่เคยรบจริงๆซักครั้ง
5. ชุง ยุง นักบินที่ผ่านสงคราม1ปีมาเช่นสโตล หัวหน้าทีมเนโร ที่มาเสริมทัพให้แก่ Task Force Alpha
6. เท็กซ์ เวสท์ นักบิน Z-Plus เป็นทหารที่มาจากคาราบ้า เป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไร
7. ซิกแมน เชด นักบิน Z-Plus อีกคนนึง
8. จอหน์ กรีซัม นักบิน FA-ZZ ลูกทีมของ ชิน
9. โรเบิรต์ เอดริน นักบิน FA-ZZ ลูกทีมของ ชิน
ฝ่าย New Desides
1. จอร์จ ออฟชอร์ นายทหารที่จบจากโรงเรียนชั้นสูงของสหพันธ์ เป็นคนของตระกูลออฟชอร์ พ่อของเขาเป็นนักการเมืองใหญ่ในพันธมิตร เป็นคนมีฝีมือสูงจนได้เข้าหน่วยฝึกสอน แต่ทว่าเป็นคนที่เห็นคนอื่นเป็นแค่เบี้ย เชื่อมั่นในแนวคิดของทีทันส์
2. ทอช เครย์ หัวหน้าทีม MS ของ New Desides เป็นเพื่อนกับ สโตล แมนนิ่ง เป็นคนฉลาดและสุขุม ผ่านสงคราม1ปีมาเหมือนสโตล มีฝีมือสูง การวางกำลังรบต่างๆของ New Desides ก็ได้ความคิดของเขามาเป็นส่วนใหญ่
3. เบรฟ คอร์ด เป็นผู้นำของ New Desides หยิ่งทนงมาก เชื่อมั่นในตนเองสูง และหัวรั้นหากตัดสินใจอะไรแล้วไม่มีใครห้ามได้
4. ไบรอัน เอโน นายพลแร้งแห่งพันธมิตร เป็นหัวหน้ากองเรือX ที่ถูกส่งมาเสริมกำลัง Task Force Alpha แต่ถูก New Desidesชักจูงจนแปรพักตร์ทรยศพันธมิตร
5. เดรก พาชูเล่ย์ นายทหารระดับสูงคนนึงของ New Desides มีนิสัยขี้ขลาด
6. ฟาสต์ ไซด์ หัวหน้าหน่วยย่อยMS ของ New Desides เป็นคนมีฝีมืออีกคนนึง
แนะนำสถานที่
1. เพนต้า สถานีอวกาศที่โคจรรอบโลก ยานของพันธมิตรที่ออกจากโลกส่วนมากจะมาเติมเชื้อเพลิงและยุทโธปกรณ์ที่นี่
2. เปซุน อดีตฐานของซีออน ที่สร้างในอุกาบาต ซีออนมีการพัฒนา MSอยู่ที่นี่ จนเมื่อพันธมิตรยึดได้ก็ส่งคนมาตรวจสอบและค้นพบแบบแปลน เซคซีรี่ย์ และได้มีการจัดตั้งหน่วยฝึกสอนที่นี่ เมื่อพวก New Desidesทรยศที่นี่ก็กลายเป็นฐานแห่งแรกของพวกเขา
3. ประตูแห่งเซดาน หรือ อาบาวกุ อดีตป้อมปาการใหญ่ของซีออนซึ่งได้กลายเป็นของTitansหลังจบสงคราม1ปี และเปลี่ยนชื่อไปเป็นประตูแห่งเซดาน ถูกฮามานเอาแอคซิสเข้าชนจนแตกในสงครามกริปส์
4. คอนเปโต้ หรือ โซโลม่อน อดีตฐานที่มั่นของซีออนอีก1แห่ง หลังจากถูกพันธมิตรยึดก็เปลี่ยนชื่อ และถูก GP-02Aของกาโต้ถล่มด้วยอะตอมมิคบาซูก้าในภาค 0083 Stardust memory
5. กริปส์ โคโลนี่ฐานที่มั่นของTitans ซึ่งได้มีการดัดแปลงจนเป็นโคโลนี่เลเซอร์
6. ดากา เมืองหลวงของพันธมิตรในช่วง ภาค Z อยู่ที่เซเนกัล ก่อนจะย้ายไปที่ลาซา ธิเบต
7. ลูน่า เมืองบนผิวดวงจันทร์ ที่ใหญ่ๆได้แก่ วอนบราวน์ (ฟอนบราวน์) กรานาด้า เอเยอร์ซิตี้
เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
1. สงคราม1ปี เกิดขึ้นวันที่ 3มกราคม UC0079 และจบลงในวันที่ 31ธันวาคมปีเดียวกัน เป็นสงครามระหว่างทัพพันธมิตร และกองทัพซีออน
2. Operation Maelstrom เป็นแผนการยึดโคโลนี่เลเซอร์กริปส์2 ของ AEUG ในภาคZ
3. สงครามกริปส์ เริ่มในวันที่ 2 มีนาคม UC0087 เป็นการเปิดศึกระหว่าง AEUG เพื่อยึดฐานใหญ่ของ Titans ที่กริปส์ (กรีนโนอา 2) ที่ Side7
4. การแถลงการณ์ที่ดากา เป็นการแถลงการณ์ของชาห์ อัสนาเบิล ถึงความเลวร้ายของทีทันส์ ด้วยการยึดการประชุมใหญ่สหพันธ์โลก ส่งผลให้Titansถูกพันธมิตรตัดหางปล่อยวัด

















วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้มยูนิคอร์น

โมบิลสูทกันดั้มยูนิคอร์น เป็นไลท์โนเวลของซีรีส์กันดั้ม ประพันธ์โดยฮารุโทชิ ฟุคุอิ ออกแบบเครื่องกลโดยฮาจิเมะ คาโทกิ ความยาวสิบเล่ม ปัจจุบันก็ถูกนำมาตีพิมพ์เป็นภาษาไทยแล้ว[ต้องการอ้างอิง] โดยสองเล่มแรกจะมีชื่อตอนว่า "วันแห่งยูนิคอร์น" และเล่มที่สามจะมีชื่อว่า "การกลับมาของดาวหางสีแดง"
นอกจากนั้นยังมีการประกาศสร้างเป็นโอวีเอความยาวห้าสิบนาที ความยาวหกตอนจบ

เนื้อเรื่อง

สามปีหลังจากที่ชาร์ อัสนาเบิ้ลได้หายสาปสูญไปพร้อมกับอามุโร่ หรือในภาค โมบิลสูทกันดั้ม : ชาร์ เคาน์เตอร์ แอทแทค vist foundation องค์การรายหนึ่ง ได้ครอบครองกล่องของ ลาพลาส มาโดยบังเอิญ แต่ผู้นำของ vist foundation รุ่นที่สอง กลับจะต้องการส่งกล่องของลาพลาสให้กับพวกนีโอซีอ้อน โดยได้เชิญทั้งฝ่ายสหพันธ์และนีโอซีอ้อนมาร่วมการประชุมเพื่อมอบกล่องของลาพลาส แต่ เจ้าหญิงแห่งเนโอ ซีออน มิเนอร์ว่า ซาบี้ซึ่งได้ใช้ชื่อปลอมว่า audrey bahn และแอบติดมากับกองยาน ได้พยายามที่จะบอกให้ vist foundation ให้หยุดการกระทำ มันอาจจะนำมาซึ่งสงครามครั้งใหญ่ แต่สถาณการกลับแย่ลง เมื่อกองทัพสหพันธ์ได้บุกโจมตี เพื่อที่จะชิง กล่องของลาพลาสมาไว้ ในขณะนั้นเอง บาร์นาช ลิงก์ ได้บังเอิญช่วยมิเนอร์ว่าไว้ โชคชะตาชิขิตให้เขาต้องมาพัวพันกับสงครามเนโอซีออน ครั้งที่สาม และการกลับมาของ ฟูล ฟรอนทัล ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า การกลับมาของชาร์ ทำสงครามครั้งสุดท้ายกับสหพันธ์โลก







โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ


โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ (ญี่ปุ่น: 機動戦士ガンダム00 Kidō Senshi Gandamu Daburuō ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น 1 ในซีรีส์ กันดั้ม เริ่มออกอากาศครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ถึง 29 มีนาคม พ.ศ. 2551 มีความยาวทั้งหมด 25 ตอน และมีกำหนดการที่จะออกอากาศซีซันที่ 2 ต่อ หลังจากเว้นระยะเวลาไปช่วงหนึ่ง[1] ส่วนในประเทศไทย โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ วางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี-ดีวีดีลิขสิทธิ์ โดย DEX

เรื่องย่อ
Season 1
หนังการ์ตูนเรื่องนี้เริ่มต้นโดยมีฉากเบื้องหลังคือโลกในปี A.D. (คริสต์ศักราช) ที่ 2307 มนุษย์ได้คิดค้นสร้างลิฟท์ขึ้นสู่วงโคจรนอกอวกาศและระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นอกชั้นบรรยากาศโลกและเริ่มใช้จริงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนพลังงานน้ำมันที่ถูกขุดขึ้นมาใช้จนเกือบหมด แต่ในการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นี้จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนก่อสร้างอย่างมหาศาล ซึ่งผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์และได้รับผลประโยชน์นั้น มีเพียง 3 ขั้วมหาอำนาจเท่านั้น ได้แก่ Union ที่นำโดยสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สัมพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปมนุษย์ที่นำโดยจีน รัสเซีย อินเดีย และ AEU หรือสหภาพยุโรป ซึ่งขั้วมหาอำนาจทั้งสามถึงแม้จะไม่ก่อสงครามต่อกันถึงขั้นแตกหักต่อกันก่อตาม ต่างฝ่ายต่างก็แข่งขันกันคิดค้นพัฒนายุทโธปกรณ์ทางการทหารกันอย่างไม่ยั้งมือ เกิดเป็นสงครามเย็นที่ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีวันจบ ส่วนประเทศขนาดเล็กที่ไม่ได้เข้าร่วมขึ้นอยู่กับขั้วมหาอำนาจใดเลย ต้องตกอยู่ในสภาวะยากไร้ขาดแคลน มีการต่อสู้แย่งชิงและเกิดสงครามภายในประเทศขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในยุคแห่งความวุ่นวายสับสนเช่นนี้ องค์กรลับนาม เซเลสเชียลบีอิงก์ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการต่อต้านและหยุดยั้งสงครามทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในโลก โดยใช้อาวุธที่ใช้เตาพลังงานแสงอาทิตย์ GNไดรฟ์ นาม "กันดั้ม" ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอาวุธในปัจจุบันเพื่อการดำเนินแผนการณ์ตามอุดมการณ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Season 2
ปีคริสต์ศักราช 2312 ภายหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเซเลสเชียลบีอิงก์กับกองกำลังสามขั้วอำนาจโลก เหล่าขั้วอำนาจได้รวมตัวกันก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา ซึ่งมีกองกำลังของตนเองเพื่อความมั่งคงและการรักษา ความสงบเรียบร้อยภายในโลก และได้มีการก่อตั้งกองกำลังอิสระนามว่า A-laws ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยของโลกใบนี้ หากแต่เบื้องหลังนั้น A-laws เป็นกำลังที่จะกำจัดผู้ที่ขัดขืนต่อต้าน สหพันธ์โลกด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เหล่าผู้คนที่ไม่พอใจต่อการกระทำนี้จึงรวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านในนาม "คาตารอน" (Kataron) ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ทำให้โลกยังไม่อาจจะพบสัญญาณแห่งความสงบสุข ได้เลย และภายใต้ความสับสนวุ่นวายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ตอนนี้นั้น กองกำลังเซเลสเชียลบีอิงก์ซึ่งได้รับการฟื้นฟูขั้นใหม่ได้พร้อมที่จะแสดงตนเองเพื่อยับยั้งสงครามครั้งใหม่นี้อีกครั้ง
ทีมงาน

ผู้สร้าง - ฮาจิเมะ ยาทาเตะ, โยชิยูกิ โทมิโนะ
ผู้เขียนบท - โยสุเกะ คุโรดะ
ออกแบบตัวละคร - ยุน โคงะ, มิจิโนริ จิบะ
ออกแบบหุ่นยนต์ & เครื่องจักร - คาเนะทาเกะ เอบิคาวะ, ทากายูกิ ยานาซะ, คุนิโอะ โอคาวาระ, เซอิจิ นากาทานิ
ดนตรีประกอบ - เคนจิ คาวาอิ
กำกับศิลป์ - ทาเคชิ ซาโต้ (KUSANAGI)
ควบคุมการบันทึกเสียง - มาซาฟุมิ มิมะ
ผู้กำกับ - เซจิ มิซึชิมะ
ผลิตแอนิเมชัน - ซันไรส์




เพลงประกอบ

เพลงเปิดเรื่อง (Opening)
"Daybreak's Bell" โดย L'Arc~en~Ciel(ตอนที่ 1-13)
"Ash Like Snow" โดย The Brillant Green (ตอนที่ 14-25)
"儚クモ永久のカナシ" (Hakanaku no Towa no Kanashi) โดย UVERworld (ซีซั่น2 ตอนที่1-13)
"泪のムコウ" (Namida no Mukou) โดย Stereo pony (ซีซั่น 2 ตอนที่ 14-25)
เพลงจบ (Ending)
"罠" (Wana) โดย The Back Horn (ตอนที่ 1-13)
"Friends" โดย Stephanie (ตอนที่ 14-25)
"Prototype" โดย Ishikawa Chiaki (ซีซั่น 2 ตอนที่1-13)
"Trust you" โดย Yuna Ito (ซีซั่น 2 ตอนที่ 14-25)
เพลงแทรก (Insert)
"Love Today" โดย Taja (ตอนที่ 18 และ ตอนที่ 24)
"Unlimited Sky" โดย tommy Heavenly 6 (ซีซั่น 2 ตอนที่ 7 และตอนที่ 18)
"Tomorrow" โดย มารินะ อิสมาอิล (สึเนะมัตสึ อายูมิ) (ซีซั่น 2 ตอนที่ 15)

โมบิลสูทกันดั้มเอ็มเอสอิกลู

โมบิลสูทกันดั้มเอ็มเอสอิกลู (ญี่ปุ่น: 機動戦士ガンダム MS IGLOO) เป็นภาพยนตร์คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ในชุดกันดั้ม โดยภาคแรกสามารถแบ่งออกได้เป็นสองภาคย่อยคือภาค บันทึกลับสงครามหนึ่งปี ซึ่งฉายที่บันไดมิวเซียม เมืองมัตสึโดะ จังหวัดจิบะและต่อมาได้มีการจำหน่ายเป็นดีวีดี กับภาค อโพคาลิป 0079 ซึ่งเป็นโอวีเอที่จำหน่ายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 เอ็มเอสอิกลูได้รับการกำกับโดยทาคาชิ อิมานิชิ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้กำกับกันดั้ม 0083และมียูทากะ อิซุบุจิเป็นผู้ดูแลการผลิต นอกจากนั้นยังมีภาคมังงะ เอ็มเอสอิกลู 603 ซึ่งวาดโดย MEIMU เนื้อหาของภาค 603 เป็นการนำภาคบันทึกลับสงครามหนึ่งปีมาเล่าใหม่และเพิ่มตอนพิเศษเข้าไป ต่อมาจึงมีภาคต่อคือ เอ็มเอสอิกลู 2 เดอะกราวิตีฟรอนท์ และเผยแพร่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2551 การดำเนินเรื่องของภาค 2 นี้จะคล้ายกับภาคแรก แต่เปลี่ยนเป็นเรื่องราวจากมุมมองของฝ่ายสหพันธ์โลกแทนและเนื้อหาจะไม่ต่อเนื่องกันเหมือนภาคแรก

เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องของเอ็มเอสอิกลูนั้นอยู่ในช่วงสงครามหนึ่งปีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับโมบิลสูทกันดั้ม โดยมีศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่หน่วยทดสอบอาวุธที่ 603ของอาณาจักรซีอ้อน หน่วย603ต้องทำหน้าที่ทดสอบและวัดความคุ้มค่าของอาวุธต่างๆ ซึ่งเอ็มเอสอิกลูทั้งหกตอนนั้นจะมีเครื่องกลและนักบินที่เป็นตัวเอกเปลี่ยนไปในแต่ละตอน โดยมีโอลิเวอร์ มาย วิศวกรผู้สังเกตการณ์เป็นเหมือนผู้เล่าเรื่องจนถึงตอนสุดท้ายของภาคอโพคาลิป 0079จึงเป็นตัวเอกเสียเอง
แม้จะเป็นเรื่องในกันดั้มซีรีส์ แต่กันดั้มได้ปรากฏตัวในเอ็มเอสอิกลูเพียงฉากวีดีโอสั้นๆในตอนที่สามของภาคบันทึกลับสงครามหนึ่งปีเท่านั้น

ตัวละครหลัก

โอลิเวอร์ มาย (オリヴァー・マイ)
พากษ์เสียงโดยฮิเดโอะ อิชิวากะ โอลิเวอร์เป็นวิศวกรผู้สังเกตการของหน่วย603ซึ่งมีหน้าที่รายงานผลการทดสอบของอาวุธต่างๆ เขาเป็นคนซื่อตรง เมื่ออาวุธที่หน่วย603ต้องทดสอบนั้นมักเป็นของที่บกพร่อง โอลิเวอร์จึงมักมีปัญหากับนักบินทดสอบอยู่บ่อยๆ
โมนิค คาดิลแล็ค (モニク・キャディラック )
พากษ์เสียงโดยมิกิ นางาซาวะ นายทหารหญิงประจำยานโยเซนไฮม์ เป็นคนที่หงุดหงิดง่ายแต่ก็มีด้านที่อ่อนโยนอยู่เหมือนกัน ในภายหลังเป็นนักบินประจำของโมบิลสูท ซูดาห์ เครื่องสุดท้าย
มาติน โบรห์โนว (マルティン・プロホノウ)
พากษ์เสียงโดยโชโซ อิคุสะ เป็นกัปตันของยานโยเซนไฮม์
ฮิเดโตะ วาชิยะ (ヒデト・ワシヤ )
พากษ์เสียงโดยจุน ฟุคุยามะ นักบินประจำยานโยเซนไฮม์ เป็นเพื่อนสนิทของโอลิเวอร์ ในภายหลังเป็นนักบินประจำของโมบิลสูท ซูดาห์









วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์


โมบิลสูทกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์ (Gundam SEED C.E.73 Stargazer) เป็นเนื้อเรื่องไซด์สตอรี่อีกภาคหนึ่งของซีรีส์ กันดั้มซี้ด (Gundam SEED) ซึ่งทางบริษัทซันไรส์ได้นำมาลงเป็น "ONA" (Original Net Animation) เป็นการฉายทางเน็ตโดยการโหลดมาชม) ซึ่งเนื้อเรื่องจะเป็นช่วงเวลาตอนที่ยูนิอุสเซเว่นตกใน กันดั้มซี้ดเดสทินี (Gundam SEED Destiny) และจะสื่อไปในอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้ชมไม่เคยได้รับทราบมาก่อน
อะนิเมะเรื่องนี้ได้ออกตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2549และได้มีการจำหน่ายดีวีดีในช่วงเดือนพฤษจิกายน 2549 ที่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในแผ่นนอกจากจะมี "โมบิลสูทกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์" แล้วยังมี "โมบิลสูทกันดั้มซี้ด เอ็มเอสวี แอสเทรย์" (Gundam Seed MSV Astray) ซึ่งเป็น OVA ขนาดสั้นแถมมาอีกด้วย

เนื้อเรื่องย่อ
หลังจากการตกของยูนิอุสเซเว่นตามเนื่อเรื่องหลักของภาค กันดั้มซี้ดเดสทินี กองทัพโลกได้จัดกำลังพลออกไปช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่รับเคราะห์จากวินาศภัยครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน เซเลเน่ แมคกริฟ พนักงานของหน่วยงานบุกเบิกอวกาศ DSSD (Deep Space Survey and Development Organization) ก็หาทางกลับไปยังสถานีอวกาศของทาง DSSD เพื่อทำการทดสอบโมบิลสูทรุ่น 401 หรือที่รู้จักกันภายหลังว่า "สตาร์เกเซอร์ (GSX-401FW Stargazer)" เพื่อใช้ในการสำรวจอวกาศ
อีกด้านหนึ่งกองกำลังอิสระที่ 81 หรือ "แฟมทอมเพน" (Phantom Pain) ก็ได้ส่งทีมของ สเวน คาล บายันผู้ขับโมบิลสูท "สไตรค์ นัวร์" (GAT-X105E Strike Noir) ให้นำลูกทีมอีกสองคนที่ขับ "บลูดูเอล" (GAT-X1022 Blu Duel) และ "เวอร์เด้บัสเตอร์" (GAT-X103AP Verde Buster) ไปต่อต้านการโจมตีจากกองกำลังที่คาดว่าจะเป็นทหารของซาฟต์ที่บุกเข้าโจมตีสถานที่ต่างๆในระหว่างที่โลกเกิดความวุ่นวาย คนทั้งสองที่เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่สุดท้ายด้วยการชี้นำของชะตากรรมและผู้เฝ้ามองดาวทำให้คนทั้งสองต้องมาพบกันในที่สุด.

รายชื่อตัวละคร

กองทัพสหพันธ์โลก
- สเวน คาล บายัน (Sven Cal Bayan) พากย์โดย โอโนะ ไดสุเกะ
- มูดี้ โฮลครอฟท์ (Mudie Holcroft) พากย์โดย ซาโต้ รินะ
- ชามส์ โคซา (Shams Couza) พากย์โดย คามิยะ ฮิโรชิ, มิยาโนะ มาโมรุ (เฉพาะตอนที่ 3 ในฉบับ ONA เนื่องจากคามิยะ ฮิโรชิเข้าโรงพยาบาล)
DSSD
- เซเลเน่ แมคกริฟ(Selene McGriff) พากย์โดย โอฮาระ ซายากะ
- เอ็ดมันด์ ดู โคลส (Edmund du Clos) พากย์โดย นากาตะ โจจิ
- โซล ริวเน่ ลังก์ (Sol Ryuune L'ange) พากย์โดย ฟุคุยามะ จุน


โมบิลสูทกันดั้มซี้ดแอสเทรย์

กันดั้มซี้ด แอสเทรย์ เป็นมังงะอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่เนื้อเรื่องควบคู่ไปกับโมบิลสูทกันดั้มซี้ด โดยกล่าวถึงกันดั้มลับ 3 เครื่องตระกูล Astray Serie ของอาณาจักรออร์บ ที่ถูกสร้างอย่างลับๆที่เดียวกับที่สร้างกันดั้มตระกูล Gat-X Serie โดยที่กองทัพโลกไม่รู้เห็น หลังจากเหตุการณ์สเปซโคโลนีเฮลิโอโปลิส ล่มสลายเพราะการสู้รบระหว่างกองทัพโลกกับซาฟภายในสเปซโคโลนีเฮลิโอโปลิส นักกู้ซากชื่อว่า โลว์ กิล ซึ่งมากับยานนักกู้ซาก ได้มาพบชิ้นส่วนแขนขวาของกันดั้ม P01-Gold Frame (Gundam Astray Gold Frame) และกันดั้มที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่ชื่อว่า กันดั้ม P02-Red Frame (Gundam Astray Red Frame) และกันดั้ม P03-Blue Frame (Gundam Astray Blue Frame) และหลังจากนั้นตัวโลว์ กิล ก็ได้พบกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลายปรากฏตัวของไก มุราคุโมะ หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มเซอร์เพนต์ เทล ซึ่งจะมาเป็นนักบิน Gundam Astray Blue Frame การปรากฏตัวของ Gundam Astray Gold Frame รวมทั้งความลับที่ไม่ได้กล่าวไว้ในซีรี่ย์ปกติและเรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่จะควบคู่ไปกับเนื้อเรื่องของโมบิลสูทกันดั้มซี้ด ตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงตอนสุดท้ายของเรื่อง
เรื่องราวของซีรี่ย์ เเอสเทรย์ จับเอาภาพของอีกด้านหนึ่งของสงครามระหว่างเนเญอรัลกับโคออร์ดิเนเตอร์ผ่านทางโลว์ กิล เเละกลุ่ม Junk Shop(กลุ่มนักกู้ซากหรือกู้ขยะที่หลงเหลือจากสงคราม)โลว์ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆมากมาย โดยบางช่วงของเรื่องจะสามารถนำไปผูกกับเนื้อเรื่องของภาคหลักด้วย อย่างเช่นเรื่องที่ทำไม คิระ ยามาโตะ ถึงรอดมาจากการระเบิดของอีจีส...เนื้อเรื่องของเเอสเทรย์จะดำเนินเรื่องไปควบคู่กับเนื้อเรื่องหลัก มีตัวละครมากมายที่บางตัวก็ยังเชื่อมไปสู่เนื้อเรื่องหลักได้เช่นกัน
การดำเนินเรื่องของกันดั้มซี้ด แอสเทรย์ในช่วงแรกจะมีการข้ามเล่มไปมาระหว่างมังงะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์ซึ่งวาดโดยโคอิจิ โทคิตะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์อาร์ซึ่งวาดโดยโทดะ ยาสึนาริและนิยายประกอบภาพถ่ายโมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์บี ซึ่งเมื่อเนื้อเรื่องของโมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์จบลงก็ได้มีภาคต่อคือโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เอ็กซ์แอสเทรย์ เมื่ออะนิเมะโมบิลสูทกันดั้มซี้ดเดสทินีออกฉายก็ได้เริ่มภาคใหม่คือโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เดสทินีแอสเทรย์ซึ่งมีทั้งฉบับมังงะและนิยายประกอบภาพถ่าย และโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เดลต้าแอสเทรย์ซึ่งลงตีพิมพ์หลังจากที่กันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์ออกฉาย มังงะภาคต่อมาก็คือโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์ ซึ่งเปิดเผยกันดั้มแอสเทรย์เครื่องที่สี่ ภาคปัจจุบันของกันดั้มแอสเทรย์ก็คือโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เวอร์ซัสแอสเทรย์

ตัวละครหลัก
- โลว์ กิล (ロウ・ギュール, Lowe Guele) เด็กหนุ่มแห่งกลุ่ม Junk Shop ผู้ดำเนินชีวิตไปด้วยการกู้ซากหรือเก็บสิ่งต่างๆที่หลงเหลือจากสงครามมาขาย เเต่เเล้ววันหนึ่ง มีข้อความส่งมาเกี่ยวกับการล่มสลายของเฮลิโอโปลิส และที่เฮลิโอโปลิสนั้น โลว์ได้พบกับ P02-Red Frame (Gundam Astray Red Frame) โมบิลสูทที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
- ไก มุราคุโมะ (業雲 劾, Murakumo Gai) ทหารรับจ้างผู้เต็มไปด้วยปริศนา ผู้มีความเก่งกาจที่ยากจะหาใครมาต่อกร ไกปรากฏตัวตั้งเเต่ตอนต้นเรื่องด้วยฝีมือที่เหนือชั้นทำให้โลว์เทียบไม่ติด ไกได้รับคำสั่งให้มาจัดการทำลายโปรโตรซีโร่ทั้ง 3 เครื่องเสียเเต่ท้ายที่สุดเมื่อนายจ้างผิดสัญญา ไกก็ยึดเอา Gundam Astray Blue Frame เพื่อต่อต้านนายจ้างของเขา เมื่อจบการต่อสู้ครั้งนั้น และโลว์ก็ตกลงมอบ Blue Frame ให้กับไกเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยปกป้องยานของพวกโลว์ (H.O.M.E.) ไว้ด้วย

โมบิลสูทกันดั้มซี้ดเดสทินี


กันดั้มซี้ดเดสทินี เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น 1 ในซีรีส์กันดั้ม ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นภาคต่อของกันดั้มซี้ด เริ่มออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกวันเสาร์ เวลา 18.00-18.30 น. ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2004 (บางท้องถิ่นเป็นวันที่ 16 ตุลาคม) ถึง 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 (บางท้องถิ่นเป็นวันที่ 8 ตุลาคม) ทางสถานี TBS รวมความยาวทั้งสิ้น 50 ตอน
ในประเทศไทย กันดั้มซี้ดเดสทินี ไม่ได้ออกอากาศทางฟรีทีวี แต่เพิ่งได้ออกกอากาศทาง ทรูสปาร์กในช่วงปลายปี 2550 ค.ศ. 2007 โดยออกอากาศครบตามจำนวนตอนปกติเหมือนครั้งออกอากาศทางญี่ปุ่น ส่วนรูปแบบ วีซีดี และ ดีวีดี เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท DEX ซึ่งในรูปแบบ ดีวีดี แผ่นสุดท้ายได้มีตอนพิเศษแถมมาให้ซึ่งก็คือเนื้อเรื่องตอนที่ 50 นำมาดัดแปลงบางส่วนของตอนจบให้ต่างจากของต้นฉบับเดิม อนึ่ง กันดั้มซี้ดเดสทินี เป็นอะนิเมะเรื่องแรกๆ ของประเทศไทยที่มีการออกวางจำหน่ายวีซีดีในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นยังคงออกอากาศต่อเนื่องอยู่


เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นจากผลกระทบของสงครามระหว่างกองทัพโลกและกองทัพซาฟต์ในสงครามครั้งก่อน เมื่อ ออร์บ ประเทศเป็นกลางโดนกองทัพโลกบุกโจมตีเพื่อยึดโรงงานโมบิลสูทมาเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ในการผลิตโมบิลสูทต่อสู้กับกองทัพซาฟต์และนำเทคโนโลยีของออร์บมาใช้ ในขณะนั้นเองตัวเอกของเรื่อง ชิน อาสึกะ นั้นก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นจนทำให้เสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป ต่อมาในภายหลังก็ได้อพยพย้ายไปอยู่ที่ แพลนท์ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักบินของซาฟต์ในการขับหุ่นกันดั้มรุ่นใหม่ของซาฟต์ อิมพัลส์กันดั้ม และด้วยเหตุอันสุดวิสัยจึงต้องเข้ามาเกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่ที่เกิดจากการจู่โจมของหน่วยลับบลูคอสมอส นำโดยพันเอกนีโอ ลอร์นอร์ค ได้ขโมยกันดั้มรุ่นใหม่ของทางซาฟต์ไปถึง 3 เครื่อง เคออสกันดั้ม ไกอากันดั้ม อาบิสกันดั้ม ซึ่งในขณะนั้น อัสรัน ซาล่า และ คางาริ ได้อยู่ที่แพลนท์ด้วย ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามที่จะประทุขึ้นมาครั้งใหม่ ทั้งการก่อการณ์ร้ายของเหล่าโคออดิเนเตอร์ที่แพ้สงครามครั้งก่อน และยังยึดมั่นในอุดมคติของ แพททริก ซาร่า ทำให้พวกเขาส่ง ยูนิอุส เซเวน (JUNIUS SEVEN) ตกลงสู่โลก ทั้งการที่หน่วยลับของโคออดิเนเตอร์พยายามสังหาร ลักส์ ไคลน์ การตัดสินใจของคิระและอัสรันในสงครามที่สวนทางกัน ทั้ง ๆ ที่ความตั้งใจของเขาทั้งสองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหตุการณ์จึงยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อบลูคอสมอสยื่นมือเข้ามาในสงครามนี้

ตัวละครหลัก

- ชิน อาสึกะ (Shinn Asuka) เป็นคนขับโมบิลสูทให้กับซาฟท์ ก่อนมาเป็นทหารเคยอาศัยอยู่ที่ORBมาก่อนแต่ได้เสียพ่อแม่และน้องสาวไปต่อหน้าต่อตาในสงคราม จึงได้เข้าร่วมกับซาฟท์ ในตอนแรกชินไม่ยอมรับอัสรัน เพราะอัสรันเคยไปอยู่กับพวกคิระ เป็นเหตุให้ชินและอัสรันไม่ค่อยลงรอยกันนัก
- เรย์ ซา บาเรล (Rey Za Barrel)
เพื่อนสนิทของ ชิน อาซึกะ คอยให้คำปรึกษาต่างๆเป็นคนที่สนิทกับ ประธานกิลเบิร์ต ดูลแรนดาล อย่างมาก ซึ่งเบื้องหลังของเค้านั้นคือ ร่างโคลน ของ ลาอู เลอ ครูเซ่ นั้นเอง ซึ่งหลังจากที่ ลาอูตายจากไป เรย์ ได้ทำหน้าที่แทนตัวเค้าเป็นอย่างดีในฐานะโคลนของลาอู แต่ก็คิดได้เมื่อได้ต่อสู้กับคิระ เมื่อคิระกล่าวว่า ชีวิตเป็นของของนาย ไม่ใช่ของเค้า (ลาอู) ทำให้เรย์ได้สติ ต่อมาได้ตายในแมสไซอาร์ พร้อมกิลเบิร์ต ผู้ที่เค้าลั่นไกสังหารเอง
- ลูน่ามาเรีย ฮอว์ค (Lunamaria Hawke)
พี่สาวของ เมย์ริน ฮอว์ค จบโรงเรียนทหารมาพร้อมกับ ชิน และ เรย์ ในยศ ซาฟท์เรด เป็นผู้ขับอิมพัลส์ ต่อจาก ชินที่ได้ เดสตินี่ไปแล้ว (ก่อนขับอิมพัลส์ก็เคยขับกันเนอร์แซกวอริเออร์รุ่นสีแดงมาแล้ว) เธอมีผมสีแดง เป็นคนรัก ชิน อาสึกะ สูง160ซ.ม.หนัก43.5ก.ก.
- เมย์ริน ฮอว์ค (Meyrin Hawke)
น้องสาวของลูน่ามาเรีย อดีตหน่วย CIC ของมิเนอร์ว่า หน้าที่คอยสั่งการโมบิลสูท และคอยติดต่อด้านการสื่อสารและระบบเครื่องของยาน ได้ช่วยเหลือในการหลบหนีของอัสรันและตัวเองก็ไปด้วย น่าจะมีความรักต่ออัสรันด้วยเธอมีผมสี แดงชมพูนิดๆ สูง156ซ.ม.หนัก54ก.ก.
- สเตลล่า ลูซิเอ้ (Stella Loussier)
หนึ่งในเด็กที่โดนทดลองโดยกองทัพโลกเรียกว่า EXTENDED ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ พันเอก นีโอ ลอร์นอร์ค ซึ่งเธอเกลียดและกลัวคำที่เกี่ยวกับคำว่า "ตาย" เป็นอย่างมาก ถ้าได้ยินจะคลั่งจนควบคุมสติไม่อยู่ ต้องหายาระงับบ่อยครั้ง และเป็นคนรักของ ชิน อาสึกะ อีกด้วย ภายหลังได้เสียชีวิตโดยฝีมือของ คิระ จากการระเบิดของหุ่นยักษ์ DESTROY GUNDAM ซึ่งเธอเป็นคนบังคับ เธอมีผมสีส้มออกเหลืองบางส่วนสูง155ซ.ม.หนัก37.5
- สติง โอคเลย์ (Sting Oakley)
- อาว นีเดอร์ (Auel neider)
- นีโอ ลอร์นอร์ค (Neo roanoke)
เป็นคนที่เคยเสียความทรงจำจากการทำสงคราม แต่ความจริงแล้วนีโอ คือ มู รา ฟราก้า สุดท้ายมูก็ฟื้นความทรงจำและกลับไปอยู่กับฝ่ายคิระ
กิลเบิร์ต ดูแรนดัล (Gilbert Duraivdal)
ประธานวุฒิสภาแห่งซาร์ฟที่ทำหน้าที่ต่อจากแพทริก ซาล่าที่ตั้งใจจะนำแผนการ "เดสทินี่ แพลนท์มาใช้แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็จบชีวิตลงด้วยมือของเรย์ที่ตนรักเหมือนกับลูกหลาน
- มีอา แคมป์เบลล์ (Meer Campbell)
หญิงสาวผู้มีเสียงคล้าย ลักซ์ ไคลน์ ซึ่งโดนประธานดูแรนดาล สั่งให้ทำศัลยกรรมให้มีรูปร่างลักษณะเหมือนลักซ์ เพื่อชักจูงจิตใจของประชาชนให้เชื่อมั่นในตัวดูลแรนดาล ภายหลังเมื่อลักซ์ตัวจริงได้เปิดเผยตัวเพื่อขัดขวางแผนการณ์ของประธาน เธอก็ถูกลอยแพ และได้เสียชีวิตเพราะช่วยเหลือลักซ์
เมื่อก่อนเธอมีผมสีนำตาลที่ชื่นชอบลักซ์ ไคลน์มากสูง160ซ.ม.หนัก52ก.ก.
- อัสรัน ซาล่า (Athrun Zala)
อดีตคู่หมั้นของลักซ์ ไคลน์ แต่ตอนนี้รักกับคางาริน้องสาวของคิระ อัสรันเป็นเพื่อนเก่าแก่ของคิระ แต่เนื่องจากการเป็นทหารคนละฝ่าย และเพราะการตัดสินใจไม่ถูกของอัสรัน ทำให้หลังจากสงครามครั้งที่ 2 นี้คิระและอัสรันทะเลาะและกลายเป็นศัตรูไป แต่เมื่อใดที่จะเกิดอันตรายกับอีกคน ก็จะเข้ามาคอยช่วยเหลือกันเสมอ
- คางาริ ยูระ อัธฮา (Cagalli Yula Athha)
แฟนของอัสรัน รู้สึกเป็นห่วงอัสรันอยู่เนืองๆในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำของORBไปในตัว และการที่เป็นผู้นำของORB ทำให้ความสัมพันธ์รักระหว่างของเธอกับอัสรันต้องมียุติลง เหลือเพียงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเท่านั้น
- คิระ ยามาโตะ (Kira Yamato)
หนึ่งในบุคคลที่น่ายกย่องด้านฝีมือและการตัดสินใจ บุคคลิกต่างจากซี้ด เป็นอย่างมาก ช่วงแรกๆ ของเรื่องไม่มีบทบาทมากนัก แต่ภายหลังจากที่คิระ ขึ้นบังคับฟรีด้อม ทำให้บทบาทของคิระมีเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับฝีมือที่มากขึ้น
- ลักส์ ไคลน์ (Lacus Clyne)
อดีตนักร้องของฝ่ายซาฟท์และเป็นอดีดคู่หมั้นของอัสรัน เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน เข้มแข็ง ใจดี เป็นแฟนสาวของคิระในภาคนี้ รู้เรื่องราวทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่ใครทำอะไรผิดหรือถูก หรือแม้แต่การรบ ลักซ์ก็สามารถทำได้ ในภาคนี้ลักซ์ได้ลอบกลับเข้าไปในฐานซาฟท์เพื่อเอายานออกมา ภายหลังจบศึกเดสทินี ลักซ์ได้เป็นผู้นำของซาฟท์ และนำพาสันติสุขแด่ซาฟท์

เพลงประกอบ
เพลงเปิดเรื่อง (Opening)
Ignited ขับร้องโดย T.M. Revolution (ตอนที่ 1-13)
Pride ขับร้องโดย High and Mighty Color (ตอนที่ 14-24)
Boku-tachi No Yukue ขับร้องโดย ฮิโตมิ ทาคาฮาชิ (ตอนที่ 25-37)
Wings of Word ขับร้องโดย CHEMISTRY (ตอนที่ 38-50)
Vestige ขับร้องโดย T.M. Revolution (ตอน Final Plus)
เพลงปิดเรื่อง (Endings)
Reason ขับร้องโดย ทามากิ นามิ (ตอนที่ 1-13)
Life Goes On ขับร้องโดย มิกะ อาริซากะ (ตอนที่ 14-25)
I Wanna Go to a Place... ขับร้องโดย ริเอะ ฟุ (ตอนที่ 26-37)
Kimi wa Boku ni Niteiru ขับร้องโดย See-Saw (ตอนที่ 38-50 ,Final Plus และ Gundam Seed Destiny Special Edition Part 4)
Result ขับร้องโดย ทามากิ นามิ (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 1)
Tears ขับร้องโดย Lisa (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 2)
Enrai ~tooku ni aru akari~ ขับร้องโดย High and Mighty Color(Gundam Seed Destiny Special Edition Part 3)
เพลงแทรกระหว่างเรื่อง (Insert Songs)
Fields of Hope ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
Vestige ขับร้องโดย T.M. Revolution
Quiet Night C.E. 73 ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
Shinkai no Kodoku ขับร้องโดย โฮโกะ คุวาชิม่า
Honoo no Tobira ขับร้องโดย FictionJunction YUUKA
Emotion ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
Zips ขับร้องโดย T.M. Revolution (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 1)

โมบิลสูทกันดั้มซี้ด


โมบิลสูทกันดั้มซี้ด (Mobile Suit Gundam SEED) (เรียกย่อ ๆ ว่า กันดั้มซี้ด) เป็นอะนิเมะฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในอะนิเมะตระกูลกันดั้ม ของสตูดิโอซันไรส์ แต่ดำเนินเรื่องในจักรวาลเฉพาะที่ใช้ชื่อศักราชว่า Cosmic Era แยกจากกันดั้มตอนอื่น ๆ ความยาว 50 ตอน ฉายระหว่าง ค.ศ. 2002-2003 ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของบริษัท DEX และเคยฉายทางไอทีวี ในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบันออกอากาศทางช่อง ASTV3 Happy Variety Channel ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.00 น.และในปี พ.ศ. 2552 ยังได้ออกอากาศทางช่อง 5 อีกครั้งด้วย
โมบิลสูทกันดั้มซี้ด มีภาคต่อที่ชื่อว่า โมบิลสูทกันดั้มซี้ดเดสทินี และมีภาคเสริมหรือ Side Story คือ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์ กับ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์
หลังจากนั้นก็มีภาคพิเศษ Gundam Seed Special Edition ออกมาทั้งหมด 3 ตอนจบ ซึ่งเป็นการนำเนื้อเรื่องเดิมมาตัดต่อใหม่ให้กระชับขึ้น และเพิ่มฉากใหม่ ๆ เข้าไป ซึ่งบริษัท DEX ก็ยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เหมือนฉบับโทรทัศน์ นอกจากนี้ยังมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะมีการสร้างกันดั้มชุด SEED นี้ ออกมาเป็นแบบภาพยนตร์

เรื่องย่อ
ไฟแห่งสงครามที่ครุกกรุ่นกำลังจะโหมกระพือในอีกไม่นานนี้..เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามระหว่าง เนเชอรัล และ โคออร์ดิเนเตอร์. โคออร์ดิเนตอร์ หรือ มนุษย์ที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรม ให้มีความสามารถสูงขึ้นกว่าปกติ ในขณะที่ เนเชอรัล หรือ มนุษย์ซึ่งเกิดตามแบบธรรมชาติ เริ่มมีความอิจฉาริษยาในความสามารถของพวกเขา ความอิจฉาริษยานั้นแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียด และก่อให้เกิดกลุ่มผู้ต่อต้านโคออร์ดิเนเตอร์หรือ บลูคอสมอส (Blue Cosmos) เพราะเหตุนี้ เหล่าโคออร์ดิเนเตอร์จึงได้สร้างโคโลนี่ในอวกาศขึ้นมาเรียก แพลนท์ (PLANT : Productive Ally on Nexus Technology) และเพราะเหตุนี้ทำให้โคออร์ดิเนเตอร์ที่เคยอาศัยบนโลกนั้น เริ่มเหลือน้อยลงทุกที
ในที่สุด ไฟแห่งสงครามก็ระเบิดขึ้น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ CE (Cosmic Era) 70 สามวันหลังจากการประกาศสงครามระหว่างฝ่ายสหพันธ์โลก (OMNI : Oppose Militancy & Neutralize Invasion Enforcer) และ กองทหารของเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์ หรือ ซาฟท์ (ZAFT : Zodiac Alliance of Freedom Treaty) ฝ่ายสหพันธ์โลกเริ่มโจมตีแพลนท์เป็นครั้งแรก และใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำลายโคโลนี่ที่มีชื่อว่า "ยูนิอุสเซเว่น (Junius Seven) " ซึ่งเป็นแพลนท์ทางด้านเกษตรกรรม ผู้คนบริสุทธิ์กว่า 200,000 ราย ต้องเสียชีวิต (243,721 คน) จนถูกกล่าวขานว่าเป็นเหตุการณ์ " วาเลนไทน์ เลือด (Bloody Valentine) " ทำให้ฝ่ายแพลนท์ตัดสินใจใช้ N-Jammer (Neutron Jammer) ซึ่งสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอนุภาคนิวตรอน ทำให้ยับยั้งปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้ โดยแพลนท์ยิงฝัง N-Jammer ลงใต้พื้นดินทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพลังงานอย่างมาก และคลื่นวิทยุบนโลกก็ถูกรบกวนจนใช้การได้ลำบาก
ไฟแห่งสงครามที่ก่อตัวขึ้น และจบลงในอีก 11 เดือนต่อมา โดยฝ่ายแพลนท์ได้รับชัยชนะในหลายๆ พื้นที่ในโลก ซึ่งหลังจากสงครามครั้งนี้สงบลง เรื่องราวต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น
คิระ ยามาโตะ ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนวิศวกรรมหุ่นยนต์ของเฮลิโอโพลิส (Heliopolis) โคโลนี่ของออร์บ ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง ที่กำลังใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างสงบสุข จนกระทั่งถูกฝ่ายซาฟท์ที่นำโดยพันเอกครูเซ่เข้าโจมตี หลังจากค้นพบว่า ออร์บได้พัฒนาโมบิลสูทและยานรบรุ่นใหม่(อาร์คแองเจิ้ล) ร่วมกับสหพันธ์โลกภายในโรงงานหลักของมอร์เก้นเรท (Morgenroete) โดยซาฟท์มีจุดประสงค์ที่จะขโมยโมบิลสูททั้ง 5 เครื่อง (สไตรค์, ดูเอล, บัสเตอร์, อีจิส และบลิทซ์) ยกเว้นเพียงตัวสุดท้ายเท่านั้นที่คิระบังเอิญได้ขึ้นบังคับ นามของมันคือ สไตรค์ จนกระทั่งนำไปสู่สงครามกับเหล่าโมบิลสูทอีก 4 เครื่องที่เหลือ โดยคิระเรียกชื่อโมบิลสูท สไตรค์ว่า "กันดั้ม (Gundam) " จากตัวอักษรนำหน้าข้อความที่ปรากฏในมอนิเตอร์ห้องนักบินตอนเข้าระบบปฏิบัติการของโมบิลสูท คิระ ซึ่งเป็นโคออร์ดิเนเตอร์ ได้แสดงความสามารถปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัตการที่ยังไม่สมบูรณ์ของสไตรค์ในเวลาคับขัน จนเขาสามารถบังคับสไตรค์ต่อสู้กับหุ่นจินน์ของซาฟท์ได้ เพื่อปกป้องเพื่อนๆของเขา และหาหนทางยุติสงครามครั้งนี้


ตัวละคร
ลูกเรืออาร์คแองเจิ้ล
- คิระ ยามาโตะ (Kira Yamato)
- เมอร์ริว ราเมียส (Murrue Ramius)
- มู ลา ฟลาก้า (Mwu La Fraga)
- นาทาล บาจิรูล (Natarle Badgiruel)
- เฟรย์ อัสตาร์ (Flay Alstar)
- ไซ อาไกล์ (Ssigh Argyle)
- ทอลล์ เกนิก (Tolle Koenic)
- ดาริดา ลอลาฮา แชนโดร่า ที่ 2 (Dalida Roe Laha Chandora II)
- แจ็กกี้ โทโนมุระ (Jackie Tonomura)
- อาโนลด์ นอยแมน (Arnold Neuman)
- โรเมโร พาล (Romero Pal)
- โทรี่
ฝ่ายแพลนท์
- อัสรัน ซาล่า (Athrun Zala)
- ลักซ์ ไคล์น (lacus Clyne)
- ราอูล เลอ ครูเซ่ (Raww Le Klueze)
- อิซาค จูล (Yzak Joule)
- ดิอัคก้า เอลส์แมน (Dearka Elthman)

- รัสตี้ แมคเคนซี่ (Rusty Macancy)
- มิเกล ไอแมน (Miguel Aiman)
- มัลโก้ โมราซิม (Marco Morassim)
- ซีเกล ไคลน์ (Sigel Clyne)
ฝ่ายออร์บ
- คางาริ ยูระ อัสฮา
- MBF-02 สไตรด์รูจ
- อุซุมิ นาระ อัสฮา
- เลโดนิล คิซากะ
- เอริก้า ซิมมอนส์
- อาซางิ โค้ดเวล
- จูริ วู เนียน
- มายูระ ลาแบ็ท
บลูคอสมอส

- มุลต้า อัสราเอล
- ออร์ก้า ซับแน็ค
- โครโต บูเออร์
- ชานี่ แอนดราส
- วิลเลียม ซูทเทอร์แลนด์

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้มเอ็กซ์

กันดั้มเอกซ์ จะใช้ ศักราชว่า Aw (After War ) ตัวเอกก็ คือ การ้อด รัน และนางเอกคือ ทิฟฟ่า อาดีล ซึ่งเป็น นิวไทป์ และ ในกันดั้มภาคนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับนิวไทป์ ซึ่งพระเอก (การ้อด รัน) ได้ใช้กันดั้มเอกซ์ ซึ่งสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีพลังการทำลายล้างสูง แต้ต้องใช้พลังงานจากดวงจันทร์ สงครามในภาคนี้จะแบ่งพวกเป็น 2 พวกคือ อาศัยอยู่บนโลกและอยู่บนอวกาศ กันดั้มเอกซ์เป็นกันดั้มภาคเดียวที่กล่าวถึงนิวไทป์แต่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิทิน Universal Century
ตัวละคร
'ฝ่ายวัลเจอร์'ในภาคนี้เนื้อหาจะกล่าวถึงช่วงเวลาหลังสงครามเป็นหลัก เนื่งจากสงครามมักทิ้งความเสียหายและซากเครื่องจักรไว้มากมาย วัลเจอร์คือกลุ่มคนที่เก็บชิ้นส่วนจากสงครามเพื่อนำมาขาย เนื้อเรื่องของกันดั้มเอกซ์นั้นมีตัละครหลักเป็นกลุ่มวัลเจอร์ชื่อฟรีเดน
จามิล นีด เป็นอดีตนักบินของสหพันธรัฐ เคยเป็นนักบินของGX-9900 (กัมดั้มเอกซ์) และGX-9901DX (กันดั้มดับเบิ้ลเอกซ์) ภายหลังจากสงครามจามิลออกจากสหพันธรัฐเพราะหลังจากสงครามโคโลนี่ทำให้จามิลเป็นโรคกลัวโมบิลสูท (ควบคุมไม่ได้และกลัวการขับ) จึงหันมาประกอบอาชีพเวอร์ชวลและออกตามหานิวไทป์ที่มีอยู่บนโลก มียานรบภาคพื้นดินขนาดใหญ่ชื่อฟรีเด็น
การ้อด รัน อายุ15ปี สูญเสียครอบครัวไปในสงครามโคโลนี่ จึงหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทำงานทุกอย่าง เก่งด้านเครื่องจักรและการลอบขโมย ไรท์คนของสหพันธรัฐได้ว่าจ้างให้การ้อดไปลักพาตัวทิฟฟ่ามาจากฟรีเด็น การ้อดรักทิฟฟ่าทันทีที่แรกเห็น และช่วยทิฟฟ่าจากการตามล่าของพวกไรท์ และด้วยพลังของทิฟฟ่าทำให้การ้อดได้ขับGX-9900 กันดั้มเอกซ์

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้ม 08th ทีม

โมบิลสูทกันดั้ม 08th ทีม เป็นแอนิเมชัน 1 ในซีรีส์ชุด กันดั้ม ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามหนึ่งปีจากมุมมองของทหารสามัญ ออกจำหน่ายในรูปแบบ โอวีเอ ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 1999 มีความยาวทั้งสิ้น 11 ตอนจบ แต่ภายหลังได้มีการสร้างตอนพิเศษ "Last Resort" (ที่พักพิงสุดท้าย) ออกมาเพิ่มเป็นตอนที่ 12นอกจากนี้ยังมีตอน "Miller's Report" ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อออกฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 1998 ด้วย


เนื้อเรื่อง
ร้อยตรี ชิโร่ อามาดะ นายทหารของสหพันธ์โลก ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาประจำการในป่าฝนเขตร้อนแถบอินโดนีเซีย-มาเลเซีย แต่ในขณะที่กำลังย้ายจากโคโลนี่ มาสู่โลกนั้น ยานอวกาศที่เขานั่งมา ได้ผ่านจุดซึ่งกำลังมีการปะทะกันระหว่างกองกำลังสหพันธ์โลกกับกองกำลังซีออน ชิโร่จึงขับบอลเข้าช่วยเหลือ และได้พบกับ ไอน่า ซาฮาริน ซึ่งเป็นนักบินทดสอบของซีออน ทั้งคู่จึงเกิดการปะทะกันขึ้น โดยที่หุ่นของทั้ง 2 ฝ่าย พังเสียหาย เเต่ทั้งคู่ก็ได้หนีเข้าไปในซากของยานรบในอวกาศ เเละเกิดตกหลุมรักซึ่งกันเเละกัน ภายหลังที่ทั้ง 2 เเยกกัน ชิโร่ก็ได้ถูกเเต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโมบิลสูทหน่วยย่อยที่ 8 ของสหพันธ์โลก โดยมีลูกทีมคือ พันจ่าเองคาเรน โจชัวร์, สิบโทเทอร์รี่ แซนเดอร์ส, สิบตรีเอเลดอร์ แมซซิส, และสิบตรี มิเกล นิโนริช


ตัวละคร
ฝ่ายโลก
ชิโร่ อามาดะ
คาเรน โจชัวร์
เทอรรี่ แซนเดอร์ส จูเนียร์
เอเลดอร์ แมสซิส
มิเกล นิโนริช
จีตัน นิกการ์ด
โคจิม่า
อีธาน ไรเออร์
ฝ่ายซีออน
ไอน่า ซาฮาริน
กิเนียส ซาฮาริน
นอร์ริส แพ็คการ์ด
ยูรี่ เคลลาเน่
พลเรือน
กิกิ โรซีต้า
บาเรสโต้ โรซีต้า

รายชื่อตอน
1.สงครามของ 2 เรา (二人だけの戦争 / War for Two)
2.กันดั้มในป่าทึบ (密林のガンダム / Gundams in the Jungle)
3.ขีดจำกัดเวลาแห่งความเชื่อมั่น (信頼への限界時間 / The Time Limit on Trust)
4.ปิศาจจากเบื้องบน (頭上の悪魔 / The Demon Overhead)
5.คำสั่งเตรียมพร้อมที่ถูกละเลย (破られた待機命令 / The Broken Order to Standby
6.แนวรบกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ (熱砂戦線 / Battle Line in the Burning Sand)
7.พบกันอีกครั้ง (再会 / Reunion)
8.หน้าที่และอุดมคติ (軍務と理想 / Duty and Ideals)
9.นักรบแนวหน้า (最前線 / Front Line)
10.ภูผาสะเทือน (ภาคแรก) (震える山(前編)/ The Shuddering Mountain (Part 1)
11.ภูผาสะเทือน (ภาคจบ) (震える山(後編)/ The Shuddering Mountain (Part 2)
12.ที่พักพิงสุดท้าย (ラストリゾート / Last Resort)

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้มวิง


โมบิลสูทกันดั้มวิง (อังกฤษ: Mobile Suit Gundam Wing (ญี่ปุ่น: 新機動戦記ガンダムW ชิน คิโด เซงคิ กันดะมุ วิงงุ ?) เป็นแอนิเมชันทางโทรทัศน์ความยาว 49 ตอน ออกอากาศ พ.ศ. 2538 ในประเทศไทยเคยแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อ.ส.ม.ท

พล็อตเรื่อง
เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์ในปี AC-195 (ปี After Colony ที่ 195) เด็กหนุ่ม 5 คน ที่ถูกส่งจากโคโลนี่ต่างๆ พร้อมด้วยหุ่นยนต์รบที่ทรงประสิทธิภาพคือ วิงกันดั้ม กันดั้มเดธไซธ์ กันดั้มเฮฟวี่อาร์ม กันดั้มแซนด์ร็อก เฉียนหลงกันดั้ม มายังโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นักรบทั้ง5คนถูกส่งมาจากโคโลนี้เพื่อมากำจัด OZ ซึ่งเป็นองค์กรทหารที่เข้มแข็งที่สุด ถูกส่งมาภายใต้รูปลักษณ์ ของดาวตกโดยใช้ชื่อแผนปฏิบัติการว่า Operation Meteor โดยสร้างจากนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 โดยส่งมาจากโคโลนี้ต่างๆ เป็นเหตุที่ไม่คาดฝันเพราะ กันดั้มทั้ง 5 ถูกส่งมาพร้อมกันบังเอิญเป็นเหตุที่ต้องทำงานรวมกัน แต่ไม่ว่ายังไงทั่ง 5 คน จะต้องกำจัด OZ ให้ได้เพื่อนำสันติภาพมาสู้ชาวโคโลนี่
ตัวละครหลัก
ฮีโร่ ยุย (ヒイロ・ユイ, Heero Yuy)
เป็นคนเคร่งขรึมและดูซีเรียสที่สุดในกลุ่ม ชื่อจริงไม่ปรากฏ ฮีโร่ ยุย เป็นชื่อของผู้นำโคโลนี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ฮีโร่เริ่มฝึกการฆ่า การขับโมบิลสูท การรบ ระเบิด เครื่องกลต่างๆตั้งแต่เด็ก เขาถูกเลี้ยงดูค่อนข้างกดดัน ไม่ได้รับความเห็นใจจากคนภายนอก เขาแข็งข้อต่อสหพันธ์ กับศัตรูแล้วเขาเป็นคนเลือดเย็นมากทำอะไรไม่คำนึงถึงชีวิตของตนเอง ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันกับภารกิจ แต่ภายใต้ใบหน้าอันเย็นชา ย่อมแฝงด้วยจิตใจอันอบอุ่นเสมอ จนเมื่อเขาได้พบรีลีน่า เขาก็ได้ค้นพบตัวเอง นี่คือก้าวแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นในความเป็นมนุษย์ของเขา ซึ่งในส่วนของ OVA กันดั้มวิง Endless waltz นั้นเผยให้เห็นถึงอดีตของ ฮีโร่ ยุย ว่าเป็นคนอ่อนโยนในอดีต แต่ถูกปลูกฝังให้กลายเป็นคนเย็นชาในที่สุด ดังที่ ด็อกเตอร์ J กล่าวเอาไว้ ในช่วงต้นเรื่อง
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบวิงกันดั้ม, วิงกันดั้มซีโร่, วิงกันดั้มซีโร่ คัสตอม
อายุ : 15 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/ญี่ปุ่น
เกิดที่ : กลุ่มยานอาณานิคมแอล 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 ซม./ 45 กก.

ดูโอ แมกซ์เวลล์ (デュオ・マックスウェル, Duo Maxwell)
เขาเป็นหนึ่งในห้านักบินกันดั้ม เป็นคนร่าเริงที่สุดในกลุ่ม เป็นคนสนุกสนาน ยึดมั่นในมิตรภาพ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบฮีโร่ ฉายาของเขาคือ Shinigami หรือ God of Death (ยมทูต) ชีวิตวัยเด็ก เขาเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากสงคราม โบสถ์แมกซ์เวลล์คือสถานที่ที่เลี้ยงดูเขา เขาไม่เชื่อในพระเจ้า แต่กลับเชื่อในเทพแห่งความตาย และแล้วสงครามก็ทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดเขาต่างล้มตาย เขาจึงขับโมบิลสูทออกต่อสู้ตั้งแต่ครั้งนั้น เขาเชื่อมั่นในพวกพ้องของเขา เข้ากับทุกคนได้ดี และมีความพยายามสูง เพื่อไปให้ถึงความฝันและอนาคตที่ตั้งไว้
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบกันดั้มเดธไซธ์ กันดั้มเดธไซธ์เฮล กันดั้มเดธไซธ์เฮล คัสตอม
อายุ : 15 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/อเมริกัน
เกิดที่ : กลุ่มยานอาณานิคมแอล 2 ในยานพเนจร ' สวีปเปอร์กรุ๊ป '
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 ซม./ 43 กก.

โทรวา บาร์ตัน (トロワ・バートン, Trowa Barton)
โทรวา บาร์ตัน เป็นชื่อปลอมที่เอามาจากผู้ตายซึ่งเป็นน้องชายของภรรยาของเทรซ คุชรีนาด้าในช่วงก่อน operation meteor ส่วนชื่อจริงๆนั้น ไม่ปรากฏ มีนิสัยเป็นคนเงียบๆเฉยชา แต่รักเพื่อน เป็นคนลึกลับที่สุดในกลุ่ม เขาพรัดพรากจากครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ เขาถูกฝึกให้เป็นทหาร เขาต้องพบเจอเรื่องราวร้ายๆมากมาย ภายในใจเขาเป็นคนอ่อนโยน ใจดีต่อผู้อื่นเสมอ เป็นคนใจอ่อน แววตาเขาดูเศร้า ราวกับจะสะท้อนให้เห็นความว่างเปล่าในจิตใจ เขาไม่มีที่ๆจะไป จนถึงวันที่เขาได้ใช้ชื่อ โทรวา บาร์ตัน เขาจึงเริ่มกำหนดชีวิตของตนเอง เขาได้พบกับเพื่อนๆทำให้เขาสดใสขึ้นมาก เขาอาศัยอยู่กับคณะละครสัตว์ เสมือนเขาได้ครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมา แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ภายใต้รอยยิ้มที่เขาจงใจให้เห็น จะแฝงไปด้วยความเศร้ามากมายเพียงใด
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบกันดั้มเฮฟวี่อาร์ม, กันดั้มเฮฟวี่อาร์ม คัสตอม
อายุ : 15 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/ไม่ปรากฏ
เกิดที่ : กลุ่มยานอาณานิคมแอล 3
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 160 ซม./ 44 กก.

ควอเตอร์ ราบาร์บา วินเนอร์
ควอเตอร์ ราบาร์บา วินเนอร์ (カトル・ラバーバ・ウィナー, Quatre Raberba Winner)
เป็นคนใจดี มีจิตใจอ่อนโยนมาก รับรู้จิตใจของผู้อื่นได้ เขาเป็นทายาทตระกูลวินเนอร์ มีพี่สาว 29 คน ส่วนแม่เสียชีวิตหลังจากคลอดเขา เขาเลือกทางชีวิตของเขาเอง แม้ว่าพ่อจะคัดค้านเขาก็ไม่ฟัง เขาเป็นคนรอบคอบ มีความเป็นผู้นำที่ดี เพราะได้รับความไว้วางใจจากฮีโร่
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบ กันดั้มแซนด์ร็อก, กันดั้มแซนด์ร็อก คัสตอม
อายุ : 15 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/อาหรับ
เกิดที่ : กลุ่มยานอาณานิคมแอล 4
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 ซม./ 41 กก.

จางอู่เฟย (張五飛, Zhang Wufei)
มีลักษณะเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร เมื่ออายุ 14 ปี เขาได้แต่งงานกับหญิงชาวจีน ชื่อ นาทาคุ (ในภาษาจีนคือ เทพนาจา) หรือเหมยหลัน แต่เขาก็ไม่เคยสนใจเธอ จนวันหนึ่งเขาได้ออกไปต่อสู้ นาทาคุช่วยชีวิตเขาไว้จนตัวเองต้องตาย เขาจึงปฏิญาณว่าจะแข็งแกร่ง ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม แต่ก็มีบางครั้งที่เขาท้อถอย แต่เขาก็สามารถหยัดยืนขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งได้อีก เพราะผู้คนรอบข้าง ต่างก็เชื่อใจในตัวเขา รวมทั้งชาวโคโลนี่ของเขาด้วย เขาเป็นคนที่คำนึงถึงจิตใจผู้อื่นพอสมควร สู้กับคนที่ต้องการสู้ ไม่ทำร้ายคนอ่อนแอ นี่คือภาพสะท้อนจากความยุติธรรมของเขา เขาเรียกกันดั้มของตนเองว่า นาทาคุ นั่นก็หมายถึงเขาระลึกถึง นาทาคุ ตลอดเวลา
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบ อัลตรอนกันดั้ม, กันดั้มนาทาคุ , กันดั้มเฉินหลง
อายุ : 15 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/จีน
เกิดที่ : กลุ่มยานอาณานิคมแอล 5
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 ซม./ 46 กก.

เทรซ คุชรีนาด้า (トレーズ・クシュリナーダ, Treize Khushrenada)
เป็นทหารคนหนึ่งของ OZ มีทหารคู่ใจ คือ เลดี้ อัน เป็นคนที่มองว่า สงครามเป็นสิ่งสวยงาม แต่ภายหลังจากมี โมบิลดอล เขาก็คิดว่า การทำสงครามเป็นการสนองความสนุกของกลุ่มคนที่มีอำนาจเท่านั้น เทรซ นิยมชมชอบทหารที่มีความสามารถ มีเพื่อนสนิท คือ เซคส์ เมอร์คิส ต่อมา เซคส์ เมอร์คิส ประกาศว่า เขาคือ มิเลียร์โด พีซคราฟต์ และตั้งตนเป็นผู้นำของชาวโคโลนี่ เทรซก็ตั้งต้นเป็นผู้นำโลก ทำให้ทั้งสองต้องสู้รบกัน ภายหลัง เทรซได้สู้กับอู๋เฟย และถูกอู๋เฟยฆ่าตาย
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบ ทอลกีซ II
อายุ : 24 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/เยอรมัน
เกิดที่ : ??
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 184 ซม./ 63 กก.

เซคส์ เมอร์คิส (มิลเลียร์โด พีซคราฟต์) (ゼクス・マーキス, Zechs Merquise (ミリアルド・ピースクラフト, Milliardo Peacecraft)
เกิดในตระกูลพีซคราฟต์ แห่งอาณาจักรแซงค์ ที่ถือหลักการเรื่องสันติภาพที่ไม่ต้องใช้อาวุธ มีน้องสาวคือ รีลีน่า มีทหารคู่ใจ คือ ลูเครเซีย นอยน์
ข้อมูลตัวละคร
ตำแหน่ง : นักบินประจำหุ่นรบทอลกีซ, ทอลกีซ III, กันดั้มเอเปียน
อายุ : 19 ปี
เพศ/เชื่อชาติ : ชาย/ยุโรปเหนือ
เกิดที่ : อาณาจักรแซงค์
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 181 ซม./ 60 กก.

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลไฟเตอร์จีกันดั้ม

โมบิลไฟเตอร์จีกันดั้ม (ญี่ปุ่น: 機動武闘伝Gガンダム Kidō Butōden Jī Gandamu - ชื่อภาษาอังกฤษคือ Mobile Fighter G Gundam ) เป็นภาพนตร์อะนิเมะซีรีส์กันดั้มโดยเนื้อหามักจะเป็นการต่อสู้เป็นหลักออกอากาศเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2537 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2538 ออกอากาศทั้งหมด 49 ตอน

เนื้อเรื่อง
ในศักราชใหม่ Future Colony มนุษย์ส่วนหนึ่งได้อพยพจากโลกไปอยู่ในโคโลนี่บนอวกาศเพราะสภาพความเสื่อมโทรมของโลก และเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามระหว่างกัน ทำให้ทุกประเทศร่วมกันตั้ง "กันดั้มไฟท์" การแข่งขันซึ่งตัวแทนของแต่ละประเทศจะต้องส่งหุ่นนาม "กันดั้ม" ซึ่งควบคุมโดยนักสู้ที่เรียกกันว่า "กันดั้มไฟเตอร์" ออกมาต่อสู้ จนเหลือผู้ชนะเพียงหนึ่ง ประเทศของผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการปกครองสหพันธ์โคโลนี่ไปจนกว่าจะถึงการแข่งขันครั้งต่อไป โดยมีสังเวียนคือโลก
ในกันดั้มไฟท์ครั้งที่ 13 โดม่อน คัซ ตัวเอกของเรื่องซึ่งต้องมาเป็นกันดั้มไฟท์ของนีโอเจแปน ต้องตามหาพี่ชายของตนเองที่นำเอา "เดวิลกันดั้ม" หนีมายังโลกก่อนจะเกิดหายนะพร้อมทั้งเพื่อช่วยพ่อของตนที่ถูกลงโทษแช่แข็งจำศีล จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งนี้

ตัวละคร
ตัวละครหลัก
- โดมอน กัช (ドモン・カッシュ)
โมบิลไฟเตอร์จากนีโอเจแปนมีเป้าหมายเพื่อปกป้องโลกและตามหาพี่ชาย (เคียวจิ) โดม่อนมีพ่อแม่อยู่ 2 คนแต่แม่เสียชีวิตจากการโจมตีของทหารของอุลเบส่วนพ่อถูกแช่แข็ง เป็นผู้สืบทอดสัญลักษณ์สหพันธ์แซฟเฟิล คิง ออฟ ฮาร์ต
- ทีโบดี้ ดล็อกเก็ต (チボデー・クロケット)
โมบิลไฟเตอร์แห่งนีโออเมริกาเป็นคนใจร้อนและเป็นนักมวยขวัญใจในประเทศในอดีตเคยเป็นคนจนตั้งแต่เด็กมาก่อน เป็นผู้สืบทอดสัญลักษณ์สหพันธ์แซฟเฟิล ควีน ออฟ สเปด
- ไซ ไซฉี (サイ・サイシー)
โมบิลไฟเตอร์แห่งนีโอไชน่าเป็นโมบิลไฟเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดชอบทำอาหารเป็นอย่างมากและเรียกโดมอนว่าลูกพี่เพราะความยกย่องในการต่อสู้ครั้งแรกมีเป้าหมายฟื้นฟูวัดเส้าหลิน เป็นผู้สืบทอดสัญลักษณ์สหพันธ์แซฟเฟิล คลับ เอซ
- จอร์ช เดอ แซนด์ (ジョルジュ・ド・サンド)
ราชวงค์แห่งนีโอฟรานซ์เป็นคนสุขุมและเป็นนักสู้ที่มีความถูกต้องมีเป้าหมายเพื่อเกียรติยศของประเทศของตัวเอง เป็นผู้สืบทอดสัญลักษณ์สหพันธ์แซฟเฟิล แจ็ค ออฟ ไดมอนค์
- อัลโก คาสกี้ (アルゴ・ガルスキー)
โมบิลไฟเตอร์แห่งนีโอรัสเซียเป็นนักโทษในเรื่องจำในอดีตเป็นสลัดอวกาศมาก่อนแต่เป็นโมบิลไฟเตอร์เนื่องจากต้องการจะช่วยพวกเพื่อนและลูกน้องของอัลโกที่ถูกจับ เป็นผู้สืบทอดสัญลักษณ์สหพันธ์แซฟเฟิล แบล็ค โจ๊กเกอร์
ฝ่ายสนับสนุน
- เรน มิคามุระ (レイン・ミカムラ)
เพื่อนสนิทของโดมอนตั้งแต่เด็กคอยช่วยเหลือและห่วงไยต่อโดมอน
ทีโบดี้เกิลส์
กลุ่มสนับสนุนของทีโบดี้โดยเดิมที่เป็นพวกอันตพาลมาก่อนแต่ว่าทีโบดี้พบพวกตนจึงทำให้เป็นคนที่ช่วยเหลือต่อทีโบดี้
- บานี่ ฮึกินส์
- เชอร์รี่ เรน
- แคล โคริน่า
- เจเน็ต สมิทธ์
- เคอุน กับ ซุยเซน
สองนักบวชแห่งวัดเส้าหลินคอยช่วยเหลือและดูแลไซ ไซฉีตั้งแต่เด็ก
- เจ้าหญิง มาเรีย หลุยส์
เจ้าหญิงแห่งนีโอฟรานซ์คอยช่วยเหลือต่อโจ ชูว และชอบสร้างความสนใจเพื่อให้โจ ชูวพอใจ
- เรมอน บีซ็อป
คนรับใช้แห่งตระกูลแซนเดอร์คอยสนับสนุนต่อโจ ชูวตลอด
- นาตาชา ซาบีโก
ทหารหญิงแห่งนีโอรัสเชียเป็นคนที่ให้อัลโกมาสู้ในกันดั้มไฟท์ครั้งที่ 13
ตัวละครอื่นๆ
- เคียวจิ กัช (キョウジ・カッシュ)
พี่ชายของโดมอนเป็นผู้ที่นำเดวิลกันดั้ม (อัลติเมทกันดั้ม) มาในโลก
- ดร.กัช
พ่อของเคียวจิและโดมอนเป็นคนที่สร้างอัลติเมทกันดั้ม
- ดร.มิคามุระ
เพื่อนสนิทของดร.กัซมีความแค้นต่อดร.กัซและดิดจะชิงอัลติเมทกันดั้ม
- อุรุเบ (อุลเบ) อิชิคาวะ (ウルベ・イシカワ)
ผู้นำกองทัพของนีโอแจแปนมีเป้าหมายนำเดวิลกันดั้มทำสงครามโดยในอดีตเคยเป็นโมบิลไฟเตอร์มาก่อนแต่แพ้กับบูรพาไร้พ่ายมาก่อนจึงมีเป้าหมายปกครองโคโลนี่และโลก
- หว่อง หยุนฟะ (ウォン・ユンファ)
นายกเทศมนตรีของนีโอฮ่องกงมีเป้าหมายในการคืนชีพของเดวิลกันดั้ม
จตุรเทพ เดวิลกันดั้ม
- บูรพาไร้พ่าย มาสเตอร์เอเซีย (東方不敗マスター・アジア)
นักสู้ของนีโอฮ่องกงและเป็นผู้ชนะกันดั้มไฟท์ครั้งที่6เป็นอาจารย์ของโดม่อนและเป็นอดีตเจ้าของสัญลักษณ์คิง ออฟ ฮาร์ตแต่กลับรับใช้เดวิลกันดั้มเพราะผิดหวังการเป็นสหพันธ์แซฟเฟิลและยังไม่เข้าใจกับความสงบของโลกแต่ก็ยังสู้และคอยสั่งสอนโดม่อนตลอด
- เจนเทิล แชปแมน (ジェントル・チャップマン)
นักสู้แห่งนีโออิงแลนค์ชอบสู้กลโกงเคยแพ้กับโจชูวและโดม่อนไปครั้งหนึ่งและได้กลับมาอีกครั้งในฐานะจตุรเทพเดวิลกันดั้มบวกกับพลังรับเซลDGไปและแก้แค้นในกันดั้มไฟท์ครั้งที่ 13
- มิเซลโร ซารอด
นักสู้แห่งนีโออิตาลี่เคยเป็นนักเลงอันตพาลและขโมยโมบิลไฟเตอร์ของประเทศตนเพื่อที่จะทำลายเมืองและเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของโดม่อนแต่ก็แพ้ไปในที่สุดแต่ก็ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะจตุรเทพเดวิลกันดั้มบวกกับพลังรับเซลDGไปและแก้แค้นในกันดั้มไฟท์ครั้งที่ 13
โมบิลไฟเตอร์คนอื่นๆ
- สวาสตซ์ บรูเดอร์ (シュバルツ・ブルーダー)
โมบิลไฟเตอร์จากนีโอเยอรมันเป็นนักสู้สวมหน้ากากและเป็นอาจารย์คนที่ 2 ของโดมอนแต่ก็ไม่เผยโฉมหน้าจริงๆแต่หลังจากต่อสู้กันดั้มไฟท์ทำให้เผยโฉมหน้าแต่เป็นเคียวจิพี่ชายของโดมอนเพราะความจริงแล้วสวาสตซ์ตัวจริงเสียชีวิตจากการโจมตีของมาสเตอร์กันดั้มแต่ด้วยเซล DG ฝังตัวสวาสตซ์ทำให้ร่างเงาของเคียวจิได้ไปสู้ร่างสวาสตซ์แทนแต่ความสามารถต่อสู้และความสามารถของสวาสตซ์ยังคงอยู่เหมือนเดิม
- อเลนวี เบรสลี่ (アレンビー・ビアズリー)
โมบิลไฟเตอร์จากนีโอสวีเดนเป็นเพื่อนสนิทของโดมอนและเป็นผู้ช่วยในการต่อสู้กันดั้มไฟท์แต่เคยเกือบถูกเซล DG ครอบงำ
- แอนดริว เกรแฮม (アンドリュー・グラハム)
โมบิลไฟเตอร์จากนีโอแคนนาดามีความแค้นต่ออัลโกโดยคิดว่าอัลโกเป็นคนฆ่าภรรยาของตนแต่ในที่สุดก็รู้ความจริงทำให้แอนคริวบาดเจ็บในการโจมตีของโนบิลกันดั้มและกลับไปรักษาตัวที่นีโอแคนนาดา
- เอลิค เดอะ ไวกิ้ง (エリック・ザ・バイキング)


โมบิลสูทกันดั้ม 0083



กันดั้ม 0083 : ความทรงจำแห่งละอองดาว (ชื่ออังกฤษ: Gundam 0083: Stardust Memory) เป็นเรื่องราวการต่อสู้หลังจากที่ซีออนได้พ่ายแพ้ในศึกสงครามที่อาบาวคู และมีซีออนกลุ่มหนึ่งหนีออกจาก อาบาวคู ไปซ่อนตัวเพื่อรอเวลาแห่งการแก้แค้น และ เพื่อความหวังที่จะจุดประกายความหวังให้กับเหล่าทหารซีออนนั้นคือแผนการขโมยโมบิลสูทรุ่นใหม่ของพันธมิตรกันดั้มที่กำลังพัฒนาขึ้นโดยใช้คอนเซปต์ทางอาวุธของโมบิลอาร์เมอร์ในการสร้างโดยใช้ชื่อว่า จีพี (GP - Gundam development Project) โดยมี อนาเวล กาโต้ ฉายา "ฝันร้ายแห่งโซโลม่อน" เป็นหัวหอกให้แผนปฏิบัติการนี้เป้าหมายคือการขโมยกันดั้มเครื่องทดสอบเครื่องที่2 GP-02 ซึ่งมีการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์นับเป็นการละเมิด สนธิสัญญาแอนตาร์คติก หากเขานำมันไปเปิดเผยแก่สายตาชาวโลกจะมีผลทางการเมืองที่จะเป็นประโยชณ์แก่ซีออน แต่โค อุรากิ นักบินทดสอบได้เผชิญหน้ากับเขาระหว่างการขโมยกันดั้ม GP-02 และเข้าขัดขวางโดย โค อุรากิ นั้นขับโมบิลสูทกันดั้ม GP-01 (ซึ่งภายหลังได้อัพเกรดเป็น GP-01Fb (Full burner)) ในการเข้าต่อกรเพื่อการชิงกันดั้มกลับคืนมา หลังจากที่กันดั้มถูกขโมยไปได้นั้น โค อูรากิ ได้รู้ถึงความน่ากลัวของสงคราม และตัดสินใจเลือกที่จะเผชิญหน้าแทนการหนีจากความจริง

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โมบิลสูทกันดั้ม F91

โมบิลสูทกันดั้ม F - 91 เป็นการเล่าเรื่องราวถึง กลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด ที่นำกำลังทหารเข้ารุกรานโคโลนี ฟรอนเทียร์ โคโลนีอันอยู่ใต้การปกครองของสหพันธ์โลก ซีบุค อาโน ผู้อาศัยอยู่ใน โคโลนี ฟรอนเทียร์ หมายเลข4 และเพื่อน ขณะที่กำลังหลบหนีจากการโจมตี กลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด ได้เข้ามาลักพาตัวเพื่อนของ ซีบุค อาโน ที่ชื่อ เซซิลี แฟร์ชาย ซึ่งเป็น ลูกสาวของหัวหน้ากลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด อาโน และเพื่อนที่เหลือจึงหนีไป ด้วยยานกู้ภัยและ ถูกคนของทางกองทัพสหพันธโลกยื้อตัวเข้าไปช่วยในสงครามเพื่อแย่งชิง ฟรอนเทียร์ คืนภายหลังเมื่อกองทัพโลกรู้ว่า อาโนนั้นคือนิวไทบ์ที่หายากยิ่งแล้ว จึงใช้เพื่อนและน้องสาวของอาโนบังคับให้อาโนออกสู้ ด้วยโมบิลสูทรุ่น ทดลองที่ชื่อF-91 หลังจากที่อาโน พบขึ้นขับF-91ในสนามรบก็พบกับ เซซิลี แฟร์ชาย อีกครั้งในครั้งนี้เธอเป็นนักบินของกลุ่มครอสโบน เมื่อทั้งคู่รู้ตัวว่ากำลังสู้กับใคร ทั้งคู่จึง ร่วมมือกันทำลายแผนของกลุ่มครอสโบน ที่จะใช้ บัคและโมบิลอาเมอ ราเฟิลเซีย ทำลายล้างระบบของสหพันธ์ที่กำลังปกครอง โคโลนีอยู่

ตัวละคร
พลเรือน
- ซีบุค อาร์โน
- ซีซีลี่ แฟร์ชาย
- ลีเซ อาร์โน
- เลสไล อาร์โน
- โมนิก้า อาร์โน
- เทโอ แฟร์ชิล
- นาเดีย โรนาห์
- คอสโม เอเกสเส
ฝ่ายพันธมิตร
- เลียลี อีดาเบอรี่
- เบอจีท เปอโจ
ครอสโบน เวนการ์ด
- เมทเซอร์ โรนา
- ไอออน มาสค์
- โดเรล โลนา
- เซบิน ชาร์โร
- แอนนามาเรีย โบร์เกท
- กิลเลท ครออเจอ